การตั้ง ศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ
ReadyPlanet.com
dot
ศาลองค์เทพ เทวดา และศาลเจ้าที่
dot
ศาลพระพรหมหินอ่อน
ศาลพระพรหมหินแกรนิต
ศาลพระภูมิ - ศาลตายาย หินอ่อนหินแกรนิต
ศาลเจ้าที่จีน ตี่จู่เอี๊ยะ
dot
ประติมากรรม หินแกะสลัก
dot
พระพุทธรูปหินอ่อน
เจ้าแม่กวนอิมหินอ่อนแกะสลัก
เทพจีน
พระพิฆเนศวร
พระเยซู พระแม่มารี
สัตว์มงคล
ประติมากรรม หินแกะสลัก อื่น ๆ
dot
งานสถาปัตยกรรม และงานแกะสลักป้าย
dot
สัถาปัตยกรรมโครงสร้างและงานแกะสลักป้าย
dot
บทความ
dot
การตั้งศาลพระพรหม-ศาลพระภูมิ
การตั้งตี่จู่เอี๊ยะ
การตั้งสิงโต
การตั้งเต่าหัวมังกร
การตั้งปี่เซี๊ยะ
dot
สังคมออนไลน์
dot
Facebook   เฟซบุ๊ก
LINE   ไลน์
Webboard  กระดานสนทนา
dot
ข่าวสาร-โปรโมชั่น
dot
ข่าวสาร - โปรโมชั่น




การตั้งศาลพระพรหม-ศาลพระภูมิ

การตั้งศาลพระภูมิการตั้งศาลพระพรหม

การตั้ง ศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม  

สิ่งที่ต้องคำนึงในการตั้ง ศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม อันดับแรกคือ 

สถานที่ตั้งและทิศทาง สถานที่ที่ตั้ง ศาลพระภูมิ พระพรหม มีหลักการพิจารณาดังนี้ 

  1. ที่ตั้งศาลต้องเป็นบริเวณพื้นดินมิใช่บริเวณเดียวกับพื้นของตัวบ้าน
  2. หากไม่มีพื้นที่ที่เป็นพื้นดินสามารถทำการตั้งศาลบนชั้นดาดฟ้าได้ แต่ส่วนใหญ่ศาลที่ตั้งบนดาดฟ้าจะเป็นศาลเทพต่างๆ เช่นพระพรหม หรือ พระนารายณ์ มิใช่พระภูมิเจ้าที่
  3. จุดที่ตั้งของ ศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ต้องไม่ถูกเงาของตัวบ้านทอดลงมาทับ
  4. ที่ตั้งของศาลควรอยู่ห่างจากบริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ
  5. อย่าตั้งศาลให้อยู่ใกล้กับตัวบ้านมากนัก
  6. อย่าหันหน้าศาลเข้าสู่บริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ
  7. ไม่ควรตั้งศาลให้หันหน้าตรงกับประตูหน้าบ้าน
  8. ตั้งศาลให้ห่างจากรั้วหรือกำแพงบ้านอย่างน้อย 1 เมตร
  9. ถ้าสามารถยกพื้นที่ตั้งศาลให้สูงขึ้นสัก 1 คืบ จากพื้นดินได้ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง
  10. ความสูงของศาล ควรสูงเหนือระดับสายตาของผู้เป็นเจ้าของบ้านขึ้นไปเล็กน้อย

ทิศทาง การหันหน้าศาลพระภูมิสู่ทิศมงคล

  1. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ทิศอีสาน เป็นทิศที่ดีที่สุดหากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป
  2. ทิศตะวันออก หรือ ทิศบูรพา เป็นทิศที่ดีอันดับ 2 หากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ประมาณ 100 ปี หลังจากนั้นจะมีแต่เสื่อมลงๆจนถึงขั้นหาความสุขความเจริญไม่ได้
  3. ทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ทิศอาคเณย์ เป็นทิศที่ดีอันดับ 3 หากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ประมาณ 50 ปี หลังจากนั้นจะมีแต่เสื่อมลงๆจนถึงขั้นหาความสุขความเจริญไม่ได้
  4. ทิศต้องห้ามในการตั้งศาลพระภูมิ คือ ทิศตะวันตกและทิศใต้ เมื่อหาทิศทางตั้งศาลได้แล้วจะต้องพูนดินให้สูง 1 คืบ เกลี่ยดินด้วยมือและทุบให้แน่น ห้ามใช้เท้าเด็ดขาด และเตรียมน้ำมนต์ไว้พรมบริเวณพื้นดินเพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ น้ำมนต์ที่ว่านี้เรียกว่า น้ำมนต์ธรณีสารน้ำมนต์ธรณีสารนี้ ทำได้โดยนำน้ำธรรมดาไปให้พระท่านสวดพระพุทธมนต์ทำเหมือน น้ำมนต์ทั่วไปแต่ต่างกันตรงที่ให้ท่านนำใบไม้ต้นธรณีสารมาใส่ลงในน้ำที่จะทำน้ำมนต์ 

วันและฤกษ์ตั้งศาล

วันและฤกษ์ตั้งศาล มีความสำคัญมาก ควรเลือกวันที่ดีและมีความเป็นสิริมงคลเพื่อให้ประสิทธิ์ผลในทางมงคล แก่ผู้อยู่อาศัยในบ้านเรือนนั้นสืบต่อไป วันต่อไปนี้ถือเป็นวันที่เป็นมงคลฤกษ์

วันข้างขึ้น และ วันข้างแรม

  • ๒ ค่ำ
  • ๔ ค่ำ
  • ๖ ค่ำ
  • ๙ ค่ำ
  • ๑๑ ค่ำ

แต่ถ้าวันข้างขึ้น หรือข้างแรมดังกล่าวไปตรงกับวันต้องห้ามของเดือนใด ให้เลี่ยงไปใช้วันอื่นเสีย

เวลาฤกษ์อันเป็นมงคล

  • วันอาทิตย์ เวลา ๖.๐๙ น. - ๘.๑๙ น.
  • วันจันทร์ เวลา ๘.๒๙ น. - ๑๐.๓๙ น.
  • วันอังคาร เวลา ๖.๓๙ น. - ๘.๐๙ น.
  • วันพุธ เวลา ๘.๓๙ น. - ๑๐.๑๙ น.
  • วันพฤหัสบดี เวลา ๑๐.๔๙ น. - ๑๑.๓๙ น.
  • วันศุกร์ เวลา ๖.๑๙ น. - ๘.๐๙ น.
  • วันเสาร์ เวลา ๘.๔๙ น. - ๑๐.๔๙ น.

วันต้องห้าม

  • เดือนอ้าย ( ธันวาคม) วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
  • เดือนยี่ (มกราคม) วันพุธ และวันศุกร์
  • เดือน ๓ (กุมภาพันธ ) วันอังคาร
  • เดือน ๔ (มีนาคม) วันจันทร์
  • เดือน ๕ (เมษายน) วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
  • เดือน ๖ (พฤษภาคม) วันพุธ และวันศุกร์
  • เดือน ๗ (มิถุนายน) วันอังคาร
  • เดือน ๘ (กรกฎาคม) วันจันทร์
  • เดือน ๙ (สิงหาคม) วันพฤหัสบดี และวันเสาร์
  • เดือน ๑๐ (กันยาย ) วันพุธ และวันศุกร์
  • เดือน ๑๑ (ตุลาคม) วันอังคาร
  • เดือน ๑๒ (พฤศจิกายน) วันจันทร์

จะสังเกตได้ว่า จะไม่ปรากฏว่ามี วันอาทิตย์ เป็น ข้อห้ามเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ยึดเอาวันอาทิตย์เป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับการตั้งศาล เพราะคนโบราณถือกันว่า วันอาทิตย์นั้นแม้จะจะเป็นวันที่มีกำลังแรงดีแต่เป็นวันแรงและวันร้อน ไม่เหมาะที่จะทำการตั้งศาล เพราะบ้านอาจจะ ร้อน จนปราศจากความร่มเย็นเป็นสุข แต่ถ้าหากผู้กระทำพิธีมีเคล็ดมีมนตร์แก้ความร้อนของวันได้ ก็สามารถคิดทำการตั้งศาลในวันนี้ได้ตามความสะดวก

ความสูงของศาล

ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าของบ้าน โดยให้ระดับฐานหรือชานชาลาพระภูมิอยู่เหนือระดับปาก (บางตำราว่าอยู่เหนือคิ้วพอดี ) ของผู้เป็นเจ้าของบ้าน ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าบ้าน ก็ควรจะตั้งศาลพระภูมิขึ้นใหม่ การใช้ศาลพระภูมิร่วมกัน กรณีที่เป็นหมู่บ้าน,ชุมชนหรือตึกแถว ให้ยึดเอาความสูงจาก เจ้าของผู้สร้างเริ่มแรกหรือหัวหน้าชุมชนนั้นๆ โดยให้เป็นตัวแทนเพื่อมาทำการยกศาลพระภูมิขึ้นเพื่อบอกกล่าวและสักการะ ขอให้ท่านดูแลปกปักษ์รักษาให้คุณ ให้โชคลาภความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้อยู่อาศัยทุกคน

การปักเสาตั้งศาล

ต้องเตรียมหลุมให้เสร็จก่อนเริ่มพิธี ( ค่อยมีพิธีในวันรุ่งขึ้น )โดยต้องเตรียมของดังนี้

  • พานครู 1 พาน ใช้สำหรับใส่ข้าว ธูป เทียนขาว ดอกไม้หรือพวงมาลัยสด เหล้า บุหรี่ ผ้าขาว เงิน 6 สลึงหรือ 99 บาท

รายการของมงคลใส่หลุม (ปัจจุบันที่นิยมใช้)

  • เหรียญเงิน 9 เหรียญ
  • เหรียญทอง (เหรียญสลึงหรือ 50 สตางค์ก็ได้) 9 เหรียญ
  • ใบเงิน 9 ใบ
  • ใบทอง 9 ใบ
  • ใบนาค 9 ใบ
  • ใบรัก 9 ใบ
  • ใบมะยม 9 ใบ
  • ใบนางกวัก 9 ใบ
  • ใบนางคุ้ม 9 ใบ
  • ใบกาหลง 9 ใบ
  • ดอกบานไม่รู้โรย 9 ดอก
  • ดอกพุทธรักษา 9 ดอก
  • ไม้มงคล 9 ชนิด
  • แผ่น เงิน,ทอง,นาค 1 ชุด
  • พลอยนพเก้า 1 ชุด

การกลบหลุมนั้นให้ใช้มือกด ห้ามใช้เท้าโดยเด็ดขาด ผู้ประกอบพิธีกรรมการตั้งศาลพระภูมิควรจะเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรมมีศีลธรรม ทำบุญทำทานประจำ มีความซื่อสัตย์สุจริต ยุติธรรม จะทำให้การตั้งศาลพระภูมิบังเกิดผลดี มีความเจริญรุ่งเรืองแก่เจ้าของบ้าน หรือเจ้าบ้านจะเป็นผู้กระทำพิธีกรรมก็ได้ โดยศึกษาขั้นตอนพิธีกรรมต่างๆ และให้ถือศีลกินเจ 7 วัน ( 3,5,7 วันก็ได้ หรือมากกว่านี้ก็ได้ )

ส่วนประกอบสำคัญของศาลพระภูมิ

จะเหว็ดศาลพระภูมิ จะเป็นรูปพระภูมิอยู่ในแผ่นคล้ายแผ่นเสมา มือขวาถือพระขรรค์ มือซ้ายถือถุงเงินหรือสมุด(หนังสือ) และการปลุกเสกจะเหว็ดให้เป็นองค์พระภูมิมีดังนี้ บรรจุธาตุทั้ง 6 คือ บรรจุพระพุทธคุณ บรรจุพระธรรมคุณ บรรจุพระสังฆคุณ ตลอดเทวคุณและวิญญาณธาตุเข้าไปในจะเหว็ดจากที่เรียกว่าจะเหว็ด เมื่อปลุกเสกแล้วก็จะเรียกว่า พระภูมิ

บริวารของพระภูมิจะมี

  1. ตุ๊กตาชาย-หญิง อย่างละ 1 คู่
  2. ตุ๊กตาช้าง-ม้า อย่างละ 1 คู่
  3. ละครยก 2 โรง

เครื่องประดับตกแต่ง จะประกอบด้วย

  1. แจกัน 1 คู่
  2. เชิงเทียน 1 คู่
  3. กระถางธูป 1 ใบ
  4. ผ้าผูกจะเหว็ด 1 ผืน
  5. ผ้าพันศาล (ผ้าแพร 3 สี คือ สีเขียว,สีเหลืองและสีแดง) 1 ชุด
  6. ฉัตรเงิน-ทอง 2 คู่
  7. ด้ายสายสิญจน์ 1 ม้วน
  8. ผ้าขาว 1 ผืน
  9. ทองคำเปลว
  10. แป้งเจิม 1 ถ้วย
  11. ดอกบัว 9 ดอก
  12. ดอกไม้ (มาลัย 7 สี ) 

เครื่องสังเวยสำหรับตั้งศาล จะประกอบด้วยอาหารคาวหวานดังนี้

  1. หัวหมู 1 หัว
  2. ขนมต้มขาว 2 จาน
  3. ไก่ต้ม 1 ตัว
  4. ขนมถั่วงา 2 จาน
  5. เป็ด 1 ตัว
  6. ขนมถ้วยฟู 2 จาน
  7. ปลานึ่ง 1 ตัว
  8. ขนมหูช้าง 2 จาน
  9. ปู หรือ กุ้ง 1 จาน
  10. เผือก-มันต้ม 2 จาน
  11. บายศรีปากชามยอดไข่ 1 คู่
  12. ฟักทอง 2 ผล
  13. น้ำจิ้ม 2 ถ้วย
  14. แตงไทย 2 ผล
  15. ข้าวสวย 2 ถ้วย
  16. ขนุน 2 จาน
  17. เหล้า 1 ขวด
  18. สับปะรด 2 ผล
  19. น้ำชา 2 ถ้วย
  20. กล้วย 2 หวี
  21. น้ำสะอาด 2 แก้ว
  22. ผลไม้ 5 ชนิด 2 จาน
  23. มะพร้าวอ่อน 1 คู่
  24. พานหมาก พลู บุหรี่ 1 คู่
  25. ขนมต้มแดง 2 จาน

**ถ้าขนาดบ้านและศาลพระภูมิเล็ก ก็สามารถใช้สับปะรดเพียง 1 ผลได้แต่จัดแบ่งเป็น 2 จาน *

เครื่องสังเวยสำหรับตั้งศาล ( มังสวิรัติ )

  1. มะพร้าวอ่อน 1 คู่
  2. ขนมถ้วยฟู 2 จาน
  3. พานหมาก พลู บุหรี่ 1 คู่
  4. ถั่วคั่ว 2 จาน
  5. ฟักทอง 2 ผล
  6. น้ำสะอาด 2 แก้ว
  7. งาคั่ว 2 จาน
  8. แตงไทย 2 ผล
  9. ข้าวสวย 2 ถ้วย
  10. เผือก-มันต้ม 2 จาน
  11. ขนุน 2 จาน
  12. น้ำชา 2 ถ้วย
  13. ขนมต้มแดง 2 จาน
  14. สับปะรด 2 ผล
  15. นม 2 ถ้วย
  16. ขนมต้มขาว 2 จาน
  17. สับปะรด 2 ผล
  18. เนย 2 ถ้วย
  19. ขนมถั่วงา 2 จาน
  20. ผลไม้ 5 ชนิด 2 จาน

ผลไม้ที่ห้ามนำถวาย

  1. มังคุด
  2. มะเฟือง
  3. น้อยหน่า
  4. ลูกจาก
  5. มะตูม
  6. ละมุด
  7. มะไฟ
  8. กระท้อน
  9. ลูกพลับ
  10. พุทรา
  11. ระกำ
  12. น้อยโหน่ง
  13. ลูกท้อ
  14. มะขวิด
  15. ลางสาด

คนไทยโบราณมีความเชื่อว่าผลไม้ทั้ง 15 ชนิดนี้เป็นอัปมงคล ไม่ควรนำมาถวายเป็นเครื่องสังเวยหน้าศาลพระภูมิเป็นอันขาด

ศาลพระภูมิ

คือ เจ้าที่ ต้องอยู่นอกบ้านเฉพาะชั้น 1 เท่านั้น ตั้งบนดาดฟ้า พระภูมิ ( ดิน ) ไม่มีพลัง กลายเป็นที่อาศัยของวิญญาณอย่างอื่น ศาลตายาย เป็นบริวารศาลพระภูมิ หากตั้ง ตี่จู้ - พระภูมิ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องตั้ง ศาลพระภูมิ ศาลตายาย 

ศาลพระพรหม มาจากฟ้า

ตั้งชั้นใดก็ได้ แต่การตั้งค่อนข้างยุ่งยากมากกว่า เพราะท่านมี 4 หน้า และปกติหน้าทั้ง 4 ไม่ควรถูกบัง จึงเหมาะกับ 4 แยก หรือโรงงานขนาดใหญ่ ไม่เหมาะกับบ้านเรือนที่อยู่อาศัย

ตำแหน่งวาง ศาลพระภูมิ ศาลพระพรหม ศาลตายาย

เหมาะกับดาวบารมีที่ดี เช่นบารมีประจำยุค บารมีหนุน เพื่อเสริมบารมี ดาวลาภที่ไม่ดี เช่นลาภเสื่อม ลาภวิบัติ เพื่อหยุดการรั่วไหล สูญเสีย

ทิศทาง

ต้องเป็นองศาที่ดี อย่างน้อยที่สุดต้องไม่เกิดโทษ เช่น ตั้งทิศทางล้มเหลว ตั้งทิศทางที่ด้านหน้าเป็นลาภวิบัติ ระบบฮวงจุ้ยไม่ได้จำกัดว่า ศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ จะต้องหันทิศเหนือหรือทิศตะวันออกเท่านั้น แต่จะขึ้นกับองศาเป็นหลัก หากหันตรงทาง 3 แพร่งหรือ 3 แยก และตำแหน่งนั้นเป็นดาวลาภ จะได้ลาภมาก

ชัยภูมิ

  • ห้ามตั้งขวางประตูใหญ่ ห้ามอยู่ใต้ส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคาร ห้ามหันสวนกับทิศทางบ้าน บริวารจะพูดอย่างทำอย่าง
  • ฐานของศาล ห้ามสูงกว่าพื้นบ้านของห้องรับแขก
  • แม้มีที่ด้านหลังมาก ห้ามตั้งหลังบ้าน หันหน้าเข้าหาตัวบ้าน แต่เป็นด้านข้างได้ 
  • ตำแหน่งที่ตั้ง ให้ระวังเรื่องกลิ่นด้วย เช่น ใกล้ถังขยะ ท่อน้ำเสีย ห้องส้วม หากมีกลิ่นรุนแรง และไม่สามารถกำจัดได้ถาวร ก็ไม่ควรตั้ง 

ฤกษ์ยาม

  • การดูฤกษ์ ต้องดูทิศประธานบ้าน หลังบ้านด้วย + ดูทิศด้านหลังศาล + ปีเกิดเจ้าบ้าน
  • ของไหว้ แนะนำเป็นผลไม้ 5 อย่าง หลีกเลี่ยงเนื้อหมู เพราะบางสถานที่ เจ้าที่เป็นคนนับถืออิสลาม
  • การย้ายศาล ต้องดูฤกษ์ทิศเดิมที่ย้ายออกด้วย โดยทั่วไปนิยมตั้งศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ ช่วงเช้าก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

หมายเหตุ

ควรตั้ง ศาลพระหรหม ศาลพระภูมิ ศาลตายาย ต่อเมื่อจำเป็นและไม่ควรตั้งหลายจุด เมื่อตั้งแล้วต้องดูแล อย่างน้อยที่สุด วันพระ ควรจัดของไหว้ ย้ายออกแล้วตั้งใหม่ด้วยตนเองได้ แต่มักนิยมให้พราหมณ์หรือผู้รู้ทำ และต้องดูฤกษ์